วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ยอมโง่บ้างก็ดี





คำพ่อ คำแม่ ->ยอมโง่บ้างก็ดี

โดยพระธรรมกิตติวงศ์ ทองดี สุรเตโช ป.ธ.9 ราชบัณฑิต วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ
ลูกรัก.....การทำตัวมีน้ำใจ เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา รักความยุติธรรมนั้นคนอื่นเขาอาจมองว่าเราโง่ ไม่รู้จักกอบโกย ไม่รู้จักทำมาหากินไม่ถือคติน้ำขึ้นให้รีบตัก
ก็ยอมให้เขามอง ห้เขาว่าไปเถอะ ยอมให้เขาว่าโง่ ดีกว่าจะเป็นคนไร้น้ำใจไม่ซื่อสัตย์ไม่ยุติธรรม
เราทำงานด้วยความซื่อสัตย์ มีน้ำใจ ตรงไปตรงมา แม้จะไม่ร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้เหมือนเขานัก แต่เราก็สบายใจ ครอบครัวเราอาจขาดแคลนไปบ้าง แต่ก็อบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้า ไม่วิตกกังวลหรือหวาดระแวงอะไรมาก

ระหว่างร่ำรวย แต่ไม่อบอุ่นกับอบอุ่นแต่ไม่ร่ำรวย ลูกจะเลือกทางไหน ?
มีคนส่วนหนึ่ง ต้องเชิดคอทำหน้าชื่นอยู่ในสังคม มีเวลาไว้คอยเอาอกเอาใจคนอื่น มากกว่าครอบครัวของตัวเอง หรือต้องดิ้นรนคอยรักษาผลประโยชน์ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ให้เวลาแก่ผลประโยชน์ มากกว่าครอบครัว หรือต้องคอยประจบสอพลอคนอื่นเพื่อผลประโยชน์นั้น มักจะคิดว่าตัวเองฉลาดที่ทำแบบนั้นได้
โดยลืมนึกไปว่าเพราะความฉลาดนั้นแหล่ะ ทำให้ตัวเองกินไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ทำให้ครอบครัวขาดความอบอุ่น ต้องคอยพินอบพิเทาคนอื่นเกินความจำเป็น
ลูกเอ๋ย......คนที่นอนไม่หลับเพราะคิดมากเรื่องงาน เรื่องธุรกิจนั้น ล้วนเป็นคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดทั้งนั้นแหล่ะ คนที่ยอมตัวเป็นคนโง่หรือเป็นคนโง่จริงๆนั้น หัวถึงหมอนเมื่อไหร่ หลับยาวได้ตลอดทั้ง
คืน...ยอมเป็นคนโง่เสียบ้าง ก็ดีเหมือนกันนะลูก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น