.....................ความหลากหลายของจิตแท้จริงเป็นเพียงจิต....................
สุภูติ...เธอคิดอย่างไร ตถาคตมีดวงตาของมนุษย์ไหม ?
มีพระเจ้าข้า
ดีละ....เธอคิดว่าตถาคตมีตาทิพย์ไหหม ?
มีพระเจ้าข้า
เธอคิดว่าตถาคตมีดวงตาแห่งธรรมไหม ?
มีพระเจ้าข้า
และเธอคิดว่าตถาคต มีดวงตาแห่งพุทธะอันเป็นสัพพัญญูไหม ?
มีพระเจ้าข้า
สุภูติ....เธอมี ความิตดเห็นอย่างไร ?พระพุทธเจ้าสอนเกี่ยวกับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคาไหม ?
ใช่ พระเจ้าข้า ตถาคตได้ทรงสอนเกี่ยวกับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา
ดีละ......สุ ภูติ....ถ้าแม่น้ำคงคามีจำนวนมากมายเท่าเม็ดทรายในแม่น้ำคงคาและแต่ละเม็ด ทรายของแม่น้ำคงคาทั้งหมดมีดินแดนแห่งพุทธภูมิอยู่ ดินแดนเหล่านั้นย่อมีมากมายไหม ?
มากมายมหาศาลพระเจ้าข้า
สุภูติ......ไม่ว่าสรรพสัตว์มากมายขนาดไหนในดินแดนแห่งพุทธภูมินั้นไม่ว่าจะมี ความหลากหลายขนาดไหนของจิตของสรรพสัตว์เหล่านั้น ตถาคตย่อมหยั่งรู้และเข้าใจได้หมด เพราะเหตุใด เพราะเหตุว่า ตถาคตสอนว่าความหลากหลายทั้งหมดนั้นล้วนไม่ใช่จิตโดยแท้จริงมันเป็นเพียง สิ่งสมมุติเรียกว่าจิตเท่านั้น สุภูติ......มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคงรักษาจิตในอดีต เป็นไปไม่ได้ที่จะถือครองจิตปัจจุบันนั้นไว้และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจับฉวย จิตในอนาคต
........................สัจจะความจริงเป็นเพียงสิ่งพื้นฐาน.............
สุภูติ.....เธอคิดอย่างไรถ้าบุคคลเติมเต็มดวงดาวทั้ง หมดอันหาประมาณมิได้ในอนันตะจักรวาลด้วยสมบัติทั้งเจ็ดแล้วเสียสละสมบัติ เหล่านั้นเป็นทานเขาจะได้รับบุญกุศลบุญมากมายมหาศาล
สุภูติ.....ถ้าบุญ ดังกล่าวนั้นเป้นจริง ตถาคตจะไม่แสดงว่ามันเป็นสิ่งยิ่งใหญ่มหาศาลอันใด แต่เพราะมันนอกเหนือสภาวะพื้นฐาน ตถาคตจึงแสดงว่ามันจะยิ่งใหญ่มหาศาล
........................ความไม่จริงของความแปลกแยกแห่งปรากฏการณ์....................
สุภูติ.......เธอคิดอย่างไรบุคคลสามารถรู้จักตถาคต โดยลักษณะรูปกายภายนอกที่สมบูรณ์กระนั้นหรือ ?
หามิได้พระเจ้าข้า....
บุคคลไม่สามารถจะรู้จักตถาคตได้เลยโดยลักษณะรูปกายที่สมบูรณ์ เพราะตถาคตสอนว่าลักษณะรูปกายที่สมบูรณ์หาใช่ลักษณะรูปกายที่สมบูรณืไม่ มันเป็นเพียงชื่อที่สมมุติบัญญัติขึ้นเท่านั้น
สุภูติ.....เธอมีความคิด เห็นอย่างไร ตถาคตสามารถรูจักโดยความหมายแห่งลักษณะปรากฏการณ์ใด ๆ หรือไม่
หามิได้พระเจ้าข้า.............
ตถาคตมิอาจรูจักได้โดยความหมายแห่งลักษณะ ปรากฏการณ์ใด ๆ เพราะตถาคตสอนว่าลักษณะ หาใช่ลักษระปรากฏการณ์ไม่ มันเป็นเพียงชื่อสมมุติบัญญัติไว้เท่านั้น................
.............................. จบวัชรเฉทิกปรัชญาปรามิตาสูตรตอนที่เจ็ด......................
..........คัดลอก(พิมพ์)จากหนังสือ วัชรเฉทิกปรัชญาปรามิตาสูตร เรียบเรียงโดย ชยธฺโม ภิกขุ.........
ไว้เพียงเท่านี้ก่อนเพราะว่าการพิมพ์สด ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ สำหรับคนที่พิมพ์ไม่คล่อง สำหรับสมาชิกใหม่สามารถค้นหาตอนต้น
(ตอนที่ 1 ถึง ตอนที่ 6)ได้ภายในห้องนี้(กรณีสำหรับคนที่สนใจธรรมมะหรือพระสูตร)
....มัชฌิมประภาสปุญสถา....
ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อ หนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคน เทอญ......................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น