วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พระศรีสรัสวดีเทวแห่งปรีชาญาณ



ในศรีมัทเทวีภัควัต ปุราณะ พระศรีนารายัณทรงตรัสว่าพระนางสรัสวดีเสด็จมายังไวกุณฑะเนื่องในวันวสันตะปัญจมี อันเป็นเทศกาลบูชาของพระนางเธอ ทรงเสด็จมาครั้งนี้เพื่อเผยถึงความหมายในการกราบไหว้บูชาพระนางให้ได้พรสูงสุด พระนางสรัสวดีจะต้องได้รับ การกราบไหว้บูชา ในวันขึ้น 5 ค่ำเดือนมาฆะ ซึ่งเรียกว่าวสันตะปัญจมี ผู้บูชาภายหลังที่ได้ประกอบกิจกรรมส่วนตัวในตอนเช้าแล้ว จะต้องจัดหาหม้อทองเหลืองมาวางไว้ที่หน้าประตูทางเข้า ในครั้งแรกเขาต้องกราบไหว้บูชาต่อพระคเณศวรก่อน ต่อมาจึงประกอบพิธีบวงสรวงบูชาต่อเทวรูปพระแม่ ด้วยการถวายของบวงสรวงพิธี โศทโศปจร

(Shodashopochar) ด้วยการถวายการกระทำถวาย 16 อย่างต่อ เทวรูป หลังจากการกล่าวสวดมนตร์ถวายต่อพระสรัสวดีเป็นการประสทัม (Prasadam) ผู้บูชาจะต้องถวายน้ำมันเนย นมเปรี้ยว เนยสด น้ำผึ้ง นม งา ขนมหวานที่ทำจากแป้ง(ลัททุ) น้ำตาลอ้อย มะพร้าว ลูกเกด กล้วย ฯลฯ การจัดมาถวายนี้ต้องแจกจ่ายผู้มาร่วมงานพิธีนี้โดยทั่วกันและที่สำคัญ ผู้บูชาจะต้องสวดมนต์ว่า นโม เทวเย สรัสวัตเย ข้าพเจ้าขอน้อมกราบต่อพระแม่สรัสวดี มนต์บทนี้สามารถให้ความสำเร็จดั่งความต้องการของผู้บูชาทั้งหลาย พระวิษณุ

เทพทรงตรัสต่อท่านฤษีนารัทว่า โอ้......ฤาษี อันมนตร์ 8 ตัวบทนี้ข้าได้มอบต่อให้ฤษีภฤคุ ผู้ที่ได้มอบต่อไปยังพระศุกราจารย์ และพระศุกร์ได้มอบต่อให้ท่านฤษีพฤหัสบดี ท่านมีความพึงใจทากต่อการกราบไหว้บูชา ชรัต กรุ (Jarat Kuru) ได้สังสอนมนตร์บทนี้ไปยังปวงมนุษย์ เพื่อเป็นสาธารณะกุศล บุคคลใดที่ได้กล่าว มนต์นี้เป็นจำนวน 4 แสนครั้งโดยไม่มีการหยุดพักเลยจะเพิ่มพูนบารมี มีพลังอำนาจในตนเองมากขึ้น ในบั้นปลายแห่งชีวิตผลบุญจะนำเขาไปยังสู่สถานที่อันสูงสุด และได้พบกับความสุขที่แท้จริง ในกาลครั้งหนึ่งฤษียัคยะ วัลกยะ ถูกสาปแช่งจากอาจารย์ของเขาให้สูญเสียความรู้ ความฉลาดจนหมดสิ้น เขาได้แต่โศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเริ่มต้นด้วยการกราบไหว้บูชาต่อพระอาทิตย์ว่าการเป็นเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง และให้ความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ท่านฤาษีได้ประกอบพิธีกรรม สมาธิบูชาต่อพระอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พระอาทิตย์ทรงโปรด จนในที่สุดเทพเจ้าพระองค์นี้ทรงปรากฏองค์ให้เห็น ท่านฤษีได้กราบทูลเรื่องราวความทุกข์โศกเศร้าของท่าน เทพเจ้าทรงแนะนำการกราบไหว้บูชาต่อ

พระแม่วาจเทวี (Vak Devi) และทรงมอบมนต์อันวิเศษให้ไว้แก่ท่านฤษีว่า นโม เทวเย สรัสวัตเย ท่านได้กล่าวเตือนท่านฤษีว่า โอ่ ฤาษี หลังจากที่ท่านได้ท่องสวดมนต์นี้แล้ว ให้ตามด้วยการท่องมนตร์โคลงต่อไปว่า กฤปัม กุรุ ชคันมาตัช มาม เอวัม หัชเตชสัม กยานัม เทหิ สัมฤติ วัทยัม ศักติ เทหิ นมัสวินิ ข้าแต่พระม่ ขอทรงส่งแสงพระเมตตาของพระองค์มาสู่ข้าพเจ้า ผู้ขาดความสุกสว่าง เต็มไปด้วยความทุกข์เศร้าหมอง ข้าแต่พระแม่ผู้ทรงกำหนด ! ขอทรงโปรดต่อข้าพเจ้าอีกครั้ง ช่วยเพิ่มพูนความรู้ ความฉลาด ความทรงจำที่ดีทั้งหลาย และขอให้ข้าพเจ้ามีสุขภาพพลานามัย มีจิตใจที่ดีสมบูรณ์ด้วยเถิดเมื่อ

พระอาทิตย์เสด็จจากไป ท่านฤษียัคยะ วัลกยะมีความยินดีมากได้ตระเตรียมตัวเดินทางไปยังป่าทึบแห่งหนึ่งเพื่อ ประกอบพิธีบวงสรวงพระแม่ หลังจากที่ได้สวดมนตร์ตามที่พระอาทิตย์สั่งกำชับไว้เป็นเวลายาวนานโดยที่ ท่านไม่ยอมพักดื่มน้ำหรือกินอาหารใด ๆ เลย แม้ว่าท่านจะต้องทนทรมานกายอย่างหนักเพื่อบูชาด้วยจิตที่ตั้งมั่นดีแล้ว วันหนึ่งพระแม่ได้ปรากฏกายต่อหน้าท่านฤษี พระนางทรงประทานพรให้กับฤษีตามที่ต้องการ นับจากนี้ ขอให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านกวีนิพนธ์ มีความรู้และมีปัญญาเป็นเลิศกล่าวกันว่า พระแม่ที่แท้จริงนั้นมีหลายรูปลักษณ์ ผู้หวังซึ่งพระเมตตาขอพระนางสรัสวดีเพื่อความรู้ ความฉลาดจะต้องทำการกราบไหว้บูชาต่อพระแม่ในรูปพระนางสรัสวดีเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น